มะม่วงอบแห้ง หรือ “Dried Mango” ถือเป็นของว่างที่อร่อยและดีต่อสุขภาพที่หลายคนชื่นชอบ ไม่ว่าจะทานเล่นในยามว่างหรือพกพาเป็นของว่างระหว่างเดินทางก็สะดวกสบาย และยังสามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่ต้องใส่สารกันเสีย หากใครกำลังมองหาวิธีทำมะม่วงอบแห้งด้วยตัวเองที่บ้านโดยไม่ใช้เครื่องอบหรืออุปกรณ์ซับซ้อน วันนี้เรามีสูตร Dried mango ง่ายๆ และเทคนิคแบบพื้นบ้านที่ทุกคนสามารถทำตามได้ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อเครื่องอบลม

หรือเครื่องอบไฟฟ้าแพงๆ เพียงแค่มีแสงแดดและความตั้งใจ ก็สามารถเปลี่ยนมะม่วงสดๆ ให้กลายเป็นของว่างสุดอร่อยได้แล้วเริ่มต้นด้วยการเลือกมะม่วง Dried mango ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด มะม่วงที่เหมาะสำหรับการทำมะม่วงอบแห้งควรเป็นพันธุ์ที่มีรสหวาน เนื้อหนาและแน่น เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงเขียวเสวย หรือมะม่วงฟ้าลั่นในระยะที่เริ่มสุกเล็กน้อย ไม่ควรใช้มะม่วงที่สุกเกินไป เพราะจะมีเนื้อเละ Dried mango ทำให้เวลาตากแล้วได้เนื้อที่ไม่สวยและเหนียวจนเกินไป

รับรองว่าจะกลายเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นอกจากจะได้ของกินอร่อยแล้ว

เมื่อได้มะม่วงที่ต้องการแล้วให้นำมาปอกเปลือก ล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นแผ่นบางๆ ประมาณครึ่งเซนติเมตร หรือหนาตามความชอบ Dried mango แต่ควรให้มีความหนาสม่ำเสมอ เพื่อให้แห้งพร้อมกันทุกชิ้นหลังจากหั่นแล้ว ให้แช่มะม่วงในน้ำเกลืออ่อนๆ หรือน้ำมะนาวเจือจางประมาณ 5-10 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อมะม่วงดำ และช่วยคงสีเหลืองทองของเนื้อไว้ให้สวยงาม จากนั้นจึงนำขึ้นมาสะเด็ดน้ำและซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาด Dried mangoก่อนที่จะวางเรียงลงบนตะแกรงหรือตะแกรงลวดที่มีช่องให้ลมผ่านได้ดี วางให้ห่างกันเล็กน้อยเพื่อให้อากาศถ่ายเทอย่างทั่วถึง และเพื่อป้องกันการขึ้นราในระหว่าง

ตากขั้นตอนต่อไปคือการตากแดด ซึ่งถือเป็นหัวใจของสูตรแบบไม่ใช้เครื่องอบนี้ ควรเลือกวันที่แดดแรงตลอดวัน และตากในที่ที่มีอากาศถ่ายเท ไม่อับชื้น ตำแหน่งที่เหมาะคือกลางแจ้งที่มีหลังคาโปร่ง เช่น ลานบ้าน หลังบ้าน หรือระเบียงที่รับแดดได้ดี โดยให้ตากมะม่วงไว้ประมาณ 2-4 วัน ขึ้นอยู่กับความหนาของชิ้นมะม่วงและความแรงของแสงแดด หากต้องการให้เนื้อมะม่วงมีความเหนียวนุ่ม Dried mango ให้คอยพลิกกลับชิ้นมะม่วงทุกๆ 3-4 ชั่วโมง เพื่อให้แห้งอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งแผ่น ในกรณีที่กลัวฝุ่นหรือแมลง ให้ใช้ผ้ามุ้งหรือตาข่ายคลุมไว้แบบห่างๆ เพื่อให้อากาศยังคงถ่ายเทได้ แต่ป้องกันสิ่งสกปรกตกลงมาได้

รสชาติโดนใจ อาจต่อยอดกลายเป็นรายได้เสริมจากงานอดิเรก

เมื่อมะม่วงแห้งจนได้ความเหนียวที่ต้องการแล้ว ให้นำมาเก็บใส่ภาชนะปิดสนิท เช่น กล่องพลาสติกหรือถุงซิปล็อก หากต้องการเก็บไว้กินนานๆ อาจใส่ในตู้เย็นเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา หรือหากมีการทำในปริมาณมากสามารถเก็บใส่ขวดสุญญากาศหรือถุงซีลอากาศก็จะช่วยยืดอายุได้นานยิ่งขึ้น Dried Mango ราคาถูกและหากชอบรสชาติที่มีความเปรี้ยวหวานมากขึ้น ก็สามารถคลุกกับน้ำตาลทรายผสมพริกป่นเล็กน้อย หรือบีบน้ำมะนาวเพิ่มก่อนตากวันสุดท้ายก็ได้

การทำ Dried Mango แบบไม่ใช้เครื่องอบนั้น แม้จะดูเป็นงานที่ใช้เวลาหลายวัน แต่กลับเต็มไปด้วยเสน่ห์และความเรียบง่ายแบบธรรมชาติที่หาไม่ได้จากวิธีอุตสาหกรรม นอกจากจะได้ของว่างที่อร่อยและปลอดภัยต่อสุขภาพแล้ว ยังได้ฝึกความอดทนและความใส่ใจในทุกขั้นตอนอีกด้วย Dried mango ที่สำคัญคือคุณสามารถควบคุมรสชาติและความหวานได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำตาลหรือสารเติมแต่งใดๆ ที่อาจมากับผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่วางขายทั่วไปในท้องตลาด